29 ก.ค. 2565 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ประเด็นสำคัญของฝีดาษลิง 2022

1.ป้องกันการแพร่ได้ และไม่ได้จำเป็นต้องให้ยาทุกราย เพราะหายเองได้

2.รู้จัก คู่สัมพันธ์ คู่นอน คู่รัก

3.ความยากของการวินิจฉัย

 

ผื่น ตุ่ม แผล ที่ผิวหนัง อยู่ในที่เร้นลับ อวัยวะเพศ ทวารหนัก และเยื่อบุ ช่องก้น ลิ้น ช่องปาก รูทวาร (anogenital oropharynx tongue) ซึ่งบ่งบอกช่องทางการติด และไวรัสจะกระจายมาหน้า มือ ตัวทีหลัง หรือไม่มาก็ได้

3.ข้อดี คือ มีอาการไม่สบาย นำมาก่อน จะมีไข้หรือไม่มีก็ตาม โดยมีอาการ เหนื่อยล้า เซื่อง หมดแรง ปวดเมื่อย ปวดหัว

ทั้งนี้ โดยที่จะมีการติดต่อกัน ต่อเมื่อเริ่มมีอาการแล้ว โดยแพร่ทางละอองน้ำลายขณะสัมผัสใกล้ชิด แม้ยังไม่มีผื่นแผล ซึ่งเมื่อมี ก็เป็นอีกช่องทางของการแพร่ได้ เมื่อมีการสัมผัสที่แผล

4.การสัมผัสใกล้ชิดกัน เป็นช่องทางติดต่อที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะขณะมีเพศสัมพันธ์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะพบดีเอ็นเอของไวรัสในน้ำอสุจิ ปัสสวะ เลือดได้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่าเป็นไวรัสในรูปที่ติดต่อได้หรือไม่

ต่างจากน้ำที่ตุ่มน้ำ หรือหนองที่แผลที่ยังไม่าะตกสะเก็ด หรือละอองฝอยน้ำลายซึ่งติดต่อได้

5.การแพร่ให้คนในครอบครัว ในบ้านเดียวกัน ยังค่อนข้างยากมาก

ติดยากกว่าโควิด การให้ความรู้อย่างกระจ่าง ถึงอาการ ช่องทางการติด การระวังตัว เป็นสิ่งสำคัญ และ ไม่ใช่เป็นเฉพาะในคนรักเพศเดียวกัน หรือ สองเพศ

(ประมวลจากรายงานในวารสารนิวอิงแลนด์วันที่ 21 กรกฎาคม รายงานการติดเชื้อ 528 รายระหว่างวันที่ 27 เมษายนถึงวันที่ 24 มิถุนายนใน 16 ประเทศ)

การตรวจฝีดาษลิงมีในเครือข่ายห้องปฏิบัติการทั่วประเทศรวมทั้งโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์และของที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ และที่ต่างๆเพื่อประสานกันในการติดตามและเฝ้าระวังทั่วประเทศครับ.

ข้อมูลจาก https://www.thaipost.net/general-news/190180/

 

6 กลเม็ด! เปลี่ยนรายจ่ายไม่มีบิล ให้หักรายจ่ายทางภาษีได้

ซื้อของไม่มีบิล ร้านค้า หรือผู้รับเงินไม่สามารถออกใบเสร็จให้ได้ ทำให้ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินเพื่อลงบันทึกบัญชีเพื่อนำมาหักรายจ่ายทางภาษี แต่ทราบหรือไม่ว่า ปัญหานี้มีทางแก้ได้ถึง 6 วิธี อ่านคำตอบได้ที่นี่

ปกติการประกอบธุรกิจทุกประเภท จะต้องมีการจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการ เพื่อใช้ในการดำเนินงานของกิจการ และเมื่อมีรายจ่ายก็จะต้องนำมาลงบัญชีรายจ่ายของกิจการ โดยใช้หลักฐานการชำระเงิน หรือใบเสร็จรับเงินเป็นเอกสารเพื่อแสดงค่าใช้จ่ายต่างๆ และนำไปใช้หักรายจ่ายทางภาษี จะช่วยทำให้เสียภาษีน้อยลง

​แต่เอกสารการซื้อที่สามารถนำไปใช้หักรายจ่ายทางภาษีได้ จะต้องสมบูรณ์ ถูกต้อง มีหลักฐานผู้รับเงินเสมอ เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและสรรพากรยอมรับ

โดยในเอกสารรายจ่ายควรจะมีข้อความดังนี้

- ชื่อที่อยู่ของผู้รับเงิน (ผู้ขาย)
- มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนสำหรับบุคคลธรรมดา 
- มีชื่อที่อยู่ของผู้ซื้อ (ผู้จ่ายเงิน)
- มีรายละเอียดสินค้าและบริการ จำนวนเงิน
- เป็นรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ

ทั้งนี้ ในการซื้อของหรือจ่ายเงินกับบางร้าน แต่ผู้รับเงินไม่ออกหลักฐานการจ่ายเงินให้ อย่างเช่นการซื้อของเบ็ดเตล็ดจากร้านค้าบางแห่ง อาจไม่มีบิลหรือใบเสร็จ ทำให้นำมาลงบันทึกบัญชีไม่ได้ หรือรายละเอียดในเอกสารไม่ครบถ้วน ถูกต้องตามที่สรรพากรกำหนด ก็ไม่สามารถนำมาหักรายจ่ายทางภาษีได้ ซึ่งผู้ประกอบการอาจไม่ทราบว่า คุณสามารถแก้ปัญหาได้ ตามแนวทางดังต่อไปนี้ 

  • ทำใบสำคัญจ่าย (Payment Voucher)

ในกรณีที่กิจการใบเสร็จรับเงิน ระบุชื่อเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กิจการ แต่กิจการมีหลักฐานอื่นที่พิสูจน์ได้ว่าได้จ่ายเงินไปเพื่อกิจการจริง ผู้ซื้อสินค้าสามารถจัดทำ “ใบสำคัญการจ่าย” (Payment Voucher) โดยข้อมูลในใบสำคัญจ่ายประกอบด้วย

- ชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้รับ วันเดือนปีที่จ่าย รายการที่จ่ายเงิน (จ่ายเป็นค่าอะไร) จำนวนเงิน และลายเซ็นผู้รับเงิน
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้รับเงิน 
- หลักฐานการจ่ายชำระอื่นๆ ประกอบ เช่น สลิปการโอนเงิน สำเนาเช็ค สำเนาใบ pay-in slip
- กรณีที่ต้องมีการภาษีหัก ณ ที่จ่าย ต้องแนบสำเนาการหักภาษี ณ ที่จ่ายประกอบด้วย

จากนั้นให้ผู้ขายเซ็นลงนาม พร้อมถ่ายสำเนาบัตรประชาชนของผู้ขายเก็บไว้ด้วย

  • ทำใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน

หากเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มีบิลหรือใบเสร็จรับเงิน และผู้ขายไม่ยินยอมหรือไม่มีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อย่างเช่นสินค้าตามตลาดทั่วไป เป็นสินค้าเบ็ดเตล็ด ร้านโชห่วย หรือการนั่งวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งผู้รับเงินหรือผู้ขายมักจะไม่มีหลักฐานในการรับเงิน หรือเป็นบิลเงินสดเขียนมือ 

ดังนั้น กิจการสามารถจัดทำเป็น “ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน” ได้ แต่ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่มีจำนวนไม่สูง ออกโดยผู้ซื้อซึ่งสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปให้ผู้ขาย หรือผู้รับเงินลงลายมือชื่อ หรือให้พนักงานผู้รับเงินเป็นคนลงชื่อรับรองการจ่ายเงินในใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าค่าใช้จ่ายนี้ เป็นการจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นจริง

  • ทำใบรับเงิน

“ใบรับเงิน” ที่สามารถใช้แทนใบเสร็จรับเงิน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีนั้น ผู้รับเงินต้องยินยอมออกใบรับเงิน (ตามมาตรา 105 ทวิ) ในใบรับเงินและสำเนาใบรับเงิน โดยมีรายละเอียดตัวเลขไทยหรือเลขอารบิก และอักษรภาษาไทย หากทำเป็นภาษาต่างประเทศต้องให้มีภาษาไทยกับด้วย และมีรายละเอียดให้ครบถ้วยดังนี้ 

- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ออกใบรับเงิน
- ชื่อของผู้ออกใบรับเงิน
- เลขที่เอกสารของใบรับเงิน
- วันเดือนปีที่ออกใบรับเงิน
- จำนวนเงินที่ได้รับ
- ชนิด ชื่อ จำนวนและราคาสินค้า
- ถ้าเป็นการขายสินค้าให้กับผู้ซื้อซึ่งขายสินค้าประเภทเดียวกัน ต้องแสดงชื่อที่อยู่ของผู้ซื้อไว้ในใบรับเงินด้วยทุกครั้งที่มีการรับเงิน

  • ทำใบสำคัญรับเงิน

“ใบสำคัญรับเงิน” ใช้กรณีผู้ที่รับเงินยินยอมให้เอกสารสำเนาบัตรประชาชน และยินยอมลงนามเป็นผู้รับเงินในใบสำคัญรับเงิน เราสามารถทำใบสำคัญรับเงินเพื่อใช้ลงบันทึกบัญชีและหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 

พร้อมแนบกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับเงินประกอบด้วย สิ่งที่สำคัญคือต้องเป็นผู้ประกอบอาชีพขายสินค้า/บริการอย่างแท้จริง 

  • สั่งจ่ายเช็คคร่อม (A/C PAYEE ONLY) เมื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านเช็ค

​หากกิจการซื้อสินค้าและทำการจ่ายด้วยเช็ค ให้สั่งจ่ายเป็นเช็คคร่อม (A/C PAYEE ONLY) พร้อมกับระบุชื่อผู้รับเงินหรือผู้ขายไว้ด้วย สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการลงบัญชี และใช้หักรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้

  • จ่ายเงินโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร

​การใช้จ่ายและทำธุรกรรมผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กิจการควรโอนเงินพร้อมทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี) ให้เสร็จสรรพ 

หรือจ่ายเงินผ่านระบบตัดบัตรหรือตัดบัญชีเงินฝากธนาคารของบริษัทให้ผู้รับเงิน (ผู้ขาย) ก็สามารถใช้เอกสารแสดงการตัดบัญชีของบริษัทที่ได้รับจากธนาคาร เป็นหลักฐานในการลงบัญชี และนำไปหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้เหมือนกัน​

  • ระวัง! ต้องไม่เป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม

และไม่ว่าวิธีต่างๆ ที่กิจการสามารถนำค่าใช้จ่าย มาใช้คำนวณกำไรสุทธิได้ แต่ถ้าหากเป็นค่าใช้จ่ายที่เข้าข่ายเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้ามแม้ว่าจะมีเอกสารการจ่ายเงินที่ถูกต้องครบถ้วนก็ไม่สามารถนำมาใช้หักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ ดังนี้

​- เป็นรายจ่ายส่วนตัว และการให้โดยเสน่หา 
​- รายจ่ายที่ไม่ใช่เพื่อกิจการหรือเพื่อหากำไร
- รายจ่ายที่กำหนดขึ้นเอง ซึ่งไม่มีการจ่ายจริง 
- รายจ่ายที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นผู้รับ

สรุป

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาภายหลัง หรือกิจการต้องเสียภาษีมากกว่าความเป็นจริง กิจการจำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการที่ออกบิล ใบเสร็จรับเงินถูกต้องสมบูรณ์ หรือทำตามหลักเกณฑ์ของสรรพากร ก็จะทำให้เสียภาษีน้อยลง ข้อมูลการลงบัญชีตรงกับความเป็นจริง เอกสารถูกต้อง ครบถ้วน ไม่ถูกตรวจสอบย้อนหลัง  

ข้อมูลจาก https://www.bangkokbiznews.com/business/976808?anf=

 

6 เดือนระบาดใหญ่ โควิด-19พลิกโลก

นับตั้งแต่องค์การอนามัยโลก ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นการระบาดใหญ่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ถึงวันนี้เป็นเวลาได้ 6 เดือนแล้วที่ชีวิตผู้คนต้องปั่นป่วน แต่ละวันโลกพยายามทำความเข้าใจกับโควิด แต่ยังมีประเด็นให้ต้องเรียนรู้อีกมากดังนี้

นับตั้งแต่องค์การอนามัยโลก ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นการระบาดใหญ่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ถึงวันนี้เป็นเวลาได้ 6 เดือนแล้วที่ชีวิตผู้คนต้องปั่นป่วน แต่ละวันโลกพยายามทำความเข้าใจกับโควิด แต่ยังมีประเด็นให้ต้องเรียนรู้อีกมากดังนี้

  • หวั่นยุโรปเจอระลอก2

ในยุโรป ที่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดก่อนเข้าฤดูร้อน เพื่อให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ล่าสุดอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกโดยเฉพาะในสเปน ฝรั่งเศส และอังกฤษ การเปิดเรียนและให้ประชาชนกลับเข้าออฟฟิศจึงมีอุปสรรค

อย่างไรก็ตาม แม้การตรวจหาเชื้อตอนนี้ขยายวงออกไปมาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังต่ำกว่าเดือน มี.ค. และเม.ย. ก่อนเริ่มล็อกดาวน์อยู่มาก กระนั้นสิ่งที่พึงระวังคือ ผู้ติดเชื้อตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่มีอาการไม่มากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่าเมื่อเวลาผ่านไป คนเหล่านี้จะนำโรคไปติดกับผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ

  • ติดเชื้อซ้ำกับภูมิคุ้มกัน

ผลการศึกษาจำนวนหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า มีคนติดเชื้อซ้ำหลังจากหายป่วยแล้ว ก่อให้เกิดความกังวลถึงการสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของมนุษย์อย่างถาวร ไม่ว่าจะด้วยการติดเชื้อหรือฉีดวัคซีน

ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำรายแรกที่ได้รับการยืนยัน เป็นชายฮ่องกงวัย 33 ปี ตรวจพบจากการคัดกรองที่สนามบินหลังจากหายป่วยมาแล้ว 4.5 เดือน

รอบนี้เขาไม่มีอาการ ที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนดีใจว่า นี่คือสัญญาณแห่งความหวังว่าระบบภูมิคุ้มกันของเขาเรียนรู้การปกป้องตนเองจากโรคนี้แล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ยังคงเตือนว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปจากการติดเชื้อซ้ำเพียงไม่กี่ราย จากผู้ติดเชื้อทั่วโลกหลายล้านราย และตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อซ้ำได้อย่างไร

ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ต่อโควิด-19 ยังคงต้องศึกษากันต่อไป หลายคนเน้นไปที่แอนติบอดี แต่ก็มีการศึกษาเซลล์เม็ดเลือดขาวขนาดเล็กที่เรียกว่า เซลล์ลิมโฟไซท์ ชนิดทีเซลล์ ที่อาจสร้างความทรงจำภูมิคุ้มกันได้ กระนั้นความรู้เกี่ยวกับวิธีที่เซลล์เหล่านี้จัดการกับโควิด-19 ก็น้อยเต็มที

 
  • เด็กกับโควิด

ขณะที่เด็กกำลังกลับเข้าชั้นเรียน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจริงๆ แล้วเด็กๆมีส่วนช่วยแพร่โควิด-19 หรือไม่ เท่าที่ทราบคือเด็กที่ติดโควิดแทบไม่มีอาการรุนแรง ส่วนใหญ่มีอาการน้อยหรือไม่มีเลย แล้วพวกเขาจะแพร่เชื้อได้หรือไม่นั้น ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคยุโรปเผยว่า ถ้ามีอาการเด็กๆ สามารถแพร่ไวรัสได้ในปริมาณเดียวกับผู้ใหญ่ และติดคนอื่นได้แบบเดียวกัน ส่วนเด็กที่ไม่แสดงอาการจะติดคนอื่นได้หรือไม่ตอนนี้ยังไม่ทราบ

ผลการศึกษาหลายชิ้นชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่เด็กแพร่โควิดมีน้อย บางทีอาจเป็นเพราะมีอาการน้อย พวกเขาอาจไม่ไอหรือจาม ที่เป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงกระจายไวรัส

กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะให้แยกระหว่างเด็กเล็กกับวัยรุ่น ที่ดูเหมือนแพร่โรคได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่

  • ความปลอดภัยของวัคซีน

โลกยังคงตั้งตารอวัคซีนที่ปลอดภัยได้ประสิทธิผล สัปดาห์นี้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ขึ้นบัญชีวัคซีนทางเลือก 35 ตัวที่กำลังทดลองกับมนุษย์ทั่วโลก ในจำนวนนี้ 9 ตัวอยู่ในเฟส3 หรือเตรียมเข้าสู่เฟส3 อันเป็นขั้นตอนสุดท้าย ที่ต้องทดสอบกับอาสาสมัครหลายหมื่นคนเพื่อวัดประสิทธิผลกับคนจำนวนมาก

มหาอำนาจผู้กล้าทุ่มอย่างสหรัฐ รัสเซีย และจีนกำลังเร่งกระบวนการเพื่อให้ได้วัคซีนเป็นประเทศแรกเผลอๆ ก่อนสิ้นปีนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ใจเย็นๆ ถ้าเร่งมือเกินไป ความปลอดภัยอาจลดลงแล้วประชาชนจะไม่เชื่อมั่น

อย่างกรณีของบริษัทยายักษ์ใหญ่ “แอสตร้าเซนเนก้า” กับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ต้องหยุดทดลองวัคซีนชั่วคราวหลังอาสาสมัครป่วยไม่ทราบสาเหตุ

ส่วนวัคซีนจะได้ใช้เมื่อใดนั้น สำนักงานแพทย์ยุโรปกล่าวว่า อาจยังไม่พร้อมใช้จนกว่าจะถึงต้นปี 2564 ดับเบิลยูเอชโอบอกว่า อาจต้องรอถึงกลางปี ในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจไม่มีวัคซีนเลยก็ได้

 

เนื้อหาต้นฉบับ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/897375?anf=

 
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต
หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“เนื่องจากมีคนออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับวัคซีนโดยมีความเข้าใจที่ผิดพลาดหลายประการ ในฐานะนักวิชาการด้านไวรัสวิทยาและวัคซีน ผมมีความจำเป็นที่ต้องออกมาชี้แจงให้ประชาชนและสังคมเข้าใจให้ถูกต้อง ในประเด็นต่างๆ ก่อนที่จะเกิดความตื่นตระหนก ความเข้าใจผิดต่างๆ ลามไปมากกว่านี้จนเกิดความเสียหายต่อการแพทย์ การสาธารณสุข และระบาดวิทยาในการควบคุมโรค ดังนี้

ประการที่หนึ่ง ในขณะนี้ตลาดของวัคซีนเป็นของผู้ขาย ไม่ใช่ผู้ซื้อวัคซีนที่จะผลิตออกมามีความขาดแคลนอย่างมาก และในระยะแรกไม่มีหลักประกันใดเลยที่จะบ่งบอกถึงว่าวัคซีนตัวไหนจะถึงเป้าหมาย ต้องมีการจองไว้ก่อน ซึ่งประเทศที่ร่ำรวยก็อาจจะได้เปรียบมีเงินจองวัคซีนที่จะคิดค้นและพัฒนาได้มากกว่าประเทศไทย

ประการที่สอง ในการจองแต่ละครั้งต้องมีการวางมัดจำ และการวางมัดจำนี้ถ้าวัคซีนผลิตไม่สำเร็จ เงินจำนวนนี้ก็จะไม่ได้คืน แม้กระทั่งการวางมัดจำกับบริษัท Astra Zeneca ก็ไม่สามารถใช้เงินหลวงไปวางมัดจำได้ จึงจำเป็นต้องใช้เงินของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ไปวางมัดจำ เพราะในช่วงดังกล่าวไม่มีหลักค้ำประกันได้เลยว่าจะได้วัคซีนตัวไหน

ประการที่สาม การให้วัคซีนในปีนี้ ในเด็กต่ำกว่า 18 ปียังไม่สามารถที่จะให้ได้ เพราะไม่มีการศึกษา ดังนั้น เมื่อตัดกลุ่มประชากรเด็กออกไปจะเป็นประชากรผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะได้รับวัคซีน ถึงแม้ประเทศจีนผลิตวัคซีนเป็นจำนวนมาก จีนเองยังไม่คิดที่จะให้ถึง 50 หรือ 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

ประการที่สี่ เพราะการให้วัคซีนในปัจจุบันเป็นวิธีการเสริมจากการป้องกันที่มีอยู่แล้ว ในการสวมหน้ากากอนามัยล้างมือและกำหนดระยะห่าง ซึ่งถ้าเราทำได้ดีการให้วัคซีนก็ไม่ถึงกับต้องเร่งรีบมากจนเกินไป รอการศึกษาให้ได้วัคซีนที่ปลอดภัยดีกว่า

ประการที่ห้า ในปีหน้าตลาดของวัคซีนจะเป็นของผู้ซื้อ มีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก เราก็สามารถที่จะเลือกซื้อได้ในตัวที่ดีที่สุดและราคาถูกที่สุด ดังนั้น ผมเชื่อว่าการประเมินที่ 26 ล้านโดสแรก น่าจะมีความเหมาะสม เพราะรอเวลาที่จะเลือกวัคซีนตัวที่ดีที่สุดและราคาเหมาะสมเข้ามาเสริมในระยะสุดท้าย ดีกว่าที่จะทุ่มเงินมัดจำไปทั้งหมดแล้วในที่สุดก็ไม่สามารถจะเลือกชนิดวัคซีนได้ โดยจะเสียเงินมัดจำไปโดยเปล่าประโยชน์ วัคซีนตัวแรกที่ออกมาไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด

ประการที่หก สิ่งที่ได้อีกอย่างหนึ่งในการผลิตวัคซีนในประเทศไทย คือ การส่งต่อเทคโนโลยีต่างๆ (Transfer of technology) ในด้านการผลิตเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับชีววัตถุซึ่งมีความสำคัญมากในอนาคต และขณะนี้มีบริษัทใหญ่ที่ทำได้ในประเทศไทยก็คงหนีไม่พ้นบริษัท สยามไบโอไซน์ และไบโอเนทเอเชียที่จะเป็นบริษัทเชิดหน้าชูตาของไทย ได้เท่านั้น บริษัทอื่นยังไม่มีศักยภาพเพียงพอ

ประการที่เจ็ด วัคซีนที่ออกมาใหม่เมื่อถามประชาชนว่าต้องการฉีดหรือไม่ ยกตัวอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกามีคนที่ต้องการฉีดไม่ถึงครึ่ง ดูรายละเอียดได้จากผลโพลนี้ https://news.gallup.com/poll/325208/americans-willing-covid-vaccine.aspx

ประการที่แปด เนื่องจากกลัวภาวะแทรกซ้อนในการพัฒนาอย่างเร่งรีบ ประเทศไทยไม่ได้มีการระบาดอย่างรุนแรงอย่างในอเมริกาเสียด้วยซ้ำ การตัดสินใจสายกลางจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ดีกว่าที่จะไปผูกมัดจนเกินไป

ประการที่เก้า การให้วัคซีนเป็นจำนวนล้านล้านคนจะต้องใช้เวลานาน เป็นไปไม่ได้ที่จะฉีดวันละเป็นล้าน การบริหารวัคซีนต้องรอบคอบ ตั้งแต่โลจิสติกส์จนถึงการให้การลงทะเบียนทุกอย่าง เร่งไม่ได้และไม่สามารถบังคับว่าทุกคนต้องฉีด ถ้าเราเลือกวัคซีนไม่ดีแล้วไม่มีคนฉีด ความสูญเสียจะมากมายจากเงินลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่ประเทศไทยเราทำอยู่ในขณะนี้มีความเหมาะสม พอเพียง พอดี บนพื้นฐานของความประมาณตน โดยใช้ความรู้ และพึ่งพาตนเองได้ ตามรอยพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

ขอฝากให้คนไทยทุกคน แสวงหาความรู้ อย่าเชื่อข่าวลือหรือข่าวที่ไม่เป็นจริง และระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพของตนให้ดี ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนกู ล้างมือ รักษาระยะห่างทางกายภาพ แล้วเราจะผ่านวิกฤตมหาโรคระบาดไปด้วยกัน”
 
 
 

 

• ออกคำสั่งต้องสวมแมสก์ 100% ฝ่าฝืนมีโทษ

• ปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่ม 31 สถานที่ โรงหนัง สวนน้ำ สวนสนุก สวนสัตว์ เล่นสเก็ต ร้านเกมส์ โต๊ะสนุก ฟิตเนส พิพิธภัณฑ์ สนามมวย สัก-เจาะผิวหนัง สนามม้า ศูนย์พระ คลีนิกเสริมความงาม นวดแผนไทย ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง ห้างเปิด11-21.00 ร้านตัดผมให้สระตัดซอยแต่งผมได้เท่านั้น (ต้องไม่มีคนนั่งรอ)
• ร้านอาหาร ต้องเว้นที่นั่ง2เมตร หรือ 1 เมตรแต่ต้องมีที่กั้น

หมวดหมู่รอง

สาระน่ารู้

บทความวิชาการ