Font Size

รัฐบาลฝรั่งเศสเปิดเผยว่า คลื่นการระบาดของโควิด-19 ลูกที่ 5 ของประเทศกำลังทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าตกใจ โดยยอดเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งเกินวันละ 17,000 รายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

รายงานเอเอฟพีอ้างข้อมูลของหน่วยงานด้านสาธารณสุขของฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ว่าจำนวนเฉลี่ยการติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 7 วันของฝรั่งเศส อยู่ที่ 17,153 คนเมื่อวันเสาร์ เพิ่มขึ้นจากยอดเฉลี่ยวันละ 9,458 คนเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ หรือเพิ่มขึ้นถึง 81%

กาเบรียล อัตตาล โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวว่า คลื่นลูกที่ 5 เริ่มต้นด้วยความเร็วปานสายฟ้า

จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วง 7 วันล่าสุด มากกว่าอัตราเฉลี่ยของ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านั้นถึง 3 เท่า บ่งชี้ว่าการติดเชื้อเพิ่มเร็วขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ถึงขณะนี้การติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นยังไม่ก่อภาวะที่ผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นขนานใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า น่าจะเป็นปัจจัยจากอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ในระดับสูง ที่ป้องกันโควิดในรูปแบบอันตรายที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก

เมื่อวันเสาร์ โรงพยาบาลรายงานว่า มีผู้ป่วยโควิดรักษาอยู่ 7,974 ราย ในจำนวนนี้ 1,333 รายอยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก เพิ่มขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับของ 1 เดือนก่อนหน้านั้น ที่มีผู้ป่วย 6,500 ราย และป่วยหนัก 1,000 ราย

ทางการฝรั่งเศสเริ่มใช้บัตรผ่านสุขภาพก่อนประเทศอื่นๆ ตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา สำหรับการใช้บริการภัตตาคาร ร้านกาแฟ และสถานที่ด้านวัฒนธรรมหลายแห่ง ซึ่งโฆษกรัฐบาลกล่าวว่าช่วยในการควบคุมไวรัสได้

บัตรผ่านนี้ออกให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว, ผู้ที่เพิ่งหายจากโควิด หรือผู้ที่ผลตรวจไวรัสเป็นลบ อัตตาลกล่าวด้วยว่า รัฐบาลฝรั่งเศสยังคงยืนหยัดทางเลือกนี้ เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนต้องแบกรับข้อจำกัดเหล่านี้ แทนที่จะเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว

ถึงขณะนี้ ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมมากกว่า 7.3 ล้านคน เสียชีวิตเกิน 118,000 คน.

ข้อมูลจาก https://www.thaipost.net/abroad-news/30085/