Font Size

23 มี.ค.64- นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่าขณะนี้ถึงกำหนดการให้วัคซีนเข็มที่ 2 ของวัคซีนจีน  Sinovac ส่วนวัคซีน AstraZeneca เริ่มให้มาแล้ว  1 อาทิตย์ ทางศูนย์ได้ทำการศึกษาวิจัยกับวัคซีนทั้ง  2 ตัว โดยมีการตรวจภูมิต้านทานก่อนและหลังฉีดวัคซีน โดยทำการศึกษาร่วมกับ โรงพยาบาลบ้านแพร้ว จำนวน 180 คน เป็นวัคซีน  Sinovac  และทำการศึกษาที่ศูนย์เองอีก 180 คน เป็นวัคซีน  Sinovac  และ AstraZeneca  อย่างละ 90 คน โดยดูอาการข้างเคียงอย่างละเอียด และผลของภูมิต้านทานทั้ง  antibody ต่อ nucleocapsid  (เปลือกไวรัส)  และภูมิต้านทานต่อ  Spike (หนามแหลม) 

จากการศึกษาที่ผ่านมาวัคซีนมีความปลอดภัยดีมาก อาการข้างเคียงส่วนใหญ่ พบเพียงเล็กน้อย ไม่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง หรือกล่าวว่า อาการทั่วไปเหมือนกับฉีดวัคซีนชนิดอื่น 

การตรวจภูมิต้านทานก่อนฉีดวัคซีน   มาจนถึงวันนี้ กว่า  300 คน ไม่มีใครเคยติดเชื้อมาก่อน ตรวจไม่พบภูมิต้านทาน

วันนี้มีการตรวจเลือดดูผลภูมิต้านทานของเข็มที่ 1 วัคซีน Sinovac  ก็คงจะรู้ว่าหลังจากเข็มแรก ภูมิต้านทานขึ้นเท่าไหร่ และเมื่อครบ 2 เข็มแล้วปลายเดือนหน้า ก็น่าจะรู้ผลของภูมิต้านทานในประชากรไทย ในการฉีดวัคซีนของจีน ส่วนวัคซีน  AstraZeneca  กว่าจะรู้ผลเข็ม 2 จะช้าหน่อย เพราะระยะห่างการฉีดเข็มที่ 2 ใช้เวลา  10-12 สัปดาห์ อยากเชิญชวนทุกท่าน เมื่อถึงคิวฉีดวัคซีน กรุณาไปฉีดวัคซีน

และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มีการฉีดวัคซีนในประชากรไทย ให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า  450 ล้านโด๊ส 

วันหนึ่งฉีดมากกว่า  10 ล้านโด๊ส .

ข้อมูลจาก https://www.thaipost.net/main/detail/96980