Font Size

การรบกวนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ด้วยเทคนิคทางอิมมูโนวิทยา

             ปัจจุบันเทคนิคทางอิมมูโนวิทยาได้ถูกนำมาใช้ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์  เพื่อการวินิจฉัย โรคอย่างกว้างขวาง  พร้อมๆกับการใช้เทคนิคที่มีความแม่นยำสูงนี้  ความผิดพลาดก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งความผิดพลาดที่มีสาเหตุจากการทำของเจ้าหน้าที่ จากคุณภาพของเครื่องมือและชุดน้ำยาตรวจสอบ และความผิดพลาดที่อาจมีสาเหตุจากสิ่งที่อยู่ในเลือดของผู้ป่วยเอง  ซึ่งที่รู้จักกันดีคือ กรณีของเลือดที่มี hemolysis, lipemia และ bilirubinemia เป็นต้น  เนื่องจากความผิดปกติของตัวอย่างเลือดที่ใช้ในการวิเคราะห์เหล่านี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีที่เกิดขึ้นในปฏิกิริยาทางอิมมูโนวิทยา  นอกเหนือจากกรณีดังกล่าวข้างต้น  ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลก่อให้เกิดความผิดพลาดในการตรวจวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางอิมมูโนวิทยา ได้แก่ แอนติบอดีอื่นๆที่มีอยู่ในเลือดของผู้ป่วย ทั้งที่มีอยู่โดยธรรมชาติและเกิดจากการถูกกระตุ้นภายหลัง (endogenous antibodies) อาทิเช่น heterophile antibody เป็นแอนติบอดีที่มีอยู่ในกระแสเลือดตามธรรมชาติและ autoantibodies เป็นแอนติบอดีที่ทำปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อของตนเอง  รวมทั้ง antianimal antibodies ที่เกิดจากการกระตุ้นโดยแอนติเจนจากสัตว์ เช่นผู้ได้รับการรักษาด้วยโปรตีนจากสัตว์หรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ เป็นต้น  ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอาจส่งผลได้ทั้งการเกิดผลบวกปลอมและผลลบปลอมจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ดังนี้

 

ปฏิกิริยาผลบวกจริง   “Ca : Ag : Da

ปฏิกิริยาผลบวกปลอม   “Ca : Eg : Da

ปฏิกิริยาผลลบปลอม   “Ca : Eg และ Eg : Da

 

Ca  = Capture antibody

Ag = Target antigen

Eg = Endogenous antibody

Da = Detection antibody

 

กลุ่มการทดสอบที่อาจได้รับผลกระทบจาก endogenous antibodies

Hormones    :         Cortisol, estradiol, free thyroxine, FSH, LH, progesterone, prolactin, testosterone, thyroglobulin, thyroxine, triiodothyroxine, TSH

Tumor Markers   :         AFP, CA125, CA15-3, CA19-9, CEA, hCG, PSA

Other                 :         CK-MB ,ferritin, hepatitis B surface antigen, troponin

 

เอกสารอ้างอิง

Emerson J.F. And Lai K.K.Y. Endogenous Antibody Interferences in Immunoassays.Lab.Med.2013 ; 44(1) : 69-73.