พิมพ์
Font Size

                บริษัท กรุงเทพ พยาธิ-แลป จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2523 เป็นห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เอกชนแห่งแรกในประเทศไทย ที่ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคครบวงจรทั้งด้านการตรวจวิเคราะห์โรคทางห้องปฏิบัติการและการวินิจฉัยโรคทางพยาธิวิทยาและเซลล์วิทยา นอกเหนือจากการบริการตามปกติแล้ว ยังให้บริการแก่การวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนและยาต่างๆ รวมทั้งการให้บริการด้านการขนส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศทั่วโลก ตลอดทั้งการเก็บรักษาตัวอย่างสิ่งส่งตรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันระยะยาวตามมาตรฐานสากล

                โดยหลักการทำงานที่มุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศเป็นผลให้ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ISO/IEC Guide 25 เมื่อปี 2543 เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น ISO 15189 ในปี 2546 และผลจาก การดำเนินการด้านการพัฒนา คุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ กรุงเทพ พยาธิ-แลป ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านคุณภาพ ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ตามมาตรฐาน ISO 15189 ระดับทอง ในปี 2554 และได้รับรางวัลความเป็น เลิศด้าน คุณภาพห้องปฏิบัติการทาง การแพทย์ ตามมาตรฐาน ISO 15189 ระดับ สุดยอดรางวัลระดับเพชร ในปี 2556 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย

           

นอกเหนือจากการให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคแก่สถานพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนทั่วประเทศกว่า 500 แห่งแล้ว หนึ่งในบทบาทที่เรากำลังจะก้าวต่อไปคือ ให้บริการด้านการสนับสนุนงานวิจัยอย่างครบวงจร โดยเปิดดำเนินการแผนกการบริการด้านงานวิจัยเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแผนก เพื่อพัฒนาการให้บริการส่วนที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน เช่นการ รับ-ส่ง ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ การวิเคราะห์สิ่งส่งตรวจ และการเก็บรักษาสิ่งส่งตรวจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนที่จะเพิ่มขึ้นคือการให้การบริการด้านการให้การปรึกษาและวางแผนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยผู้มีประสบการณ์สูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลายสาขาวิชา

               

อีกหนึ่งในบทบาทที่เรากำลังมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้สูงขึ้นท่ามกลางสภาวะความแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือการเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community, AEC) ในปี พ.ศ.2558 โดยอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ