พิมพ์
Font Size

 


แคนาดา และออสเตรเลีย ระบุวัคซีนโควิด-19 ของ “แอสตร้าเซนเนก้า” มีความปลอดภัย และจะเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนต่อไป แม้เดนมาร์กและนอร์เวย์ระงับใช้วัคซีนของบริษัทแห่งนี้ชั่วคราว ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุพบก่อการตัวของลิ่มเลือดในประชาชนบางรายที่ได้รับวัคซีนดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขแคนาดาระบุในถ้อยแถลงว่า “สาธารณสุขแคนาดาทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์อาการไม่พึงประสงค์ในยุโรป หลังฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว และอยากรับประกันกับชาวแคนาดาทุกคนว่าประโยชน์ของวัคซีนจะยังคงมีน้ำหนักเหนือกว่าความเสี่ยงทั้งหลายจากวัคซีน”

“ในเวลานี้ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนเป็นสาเหตุของอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้” ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขแคนาดาระบุ

แคนาดาได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยสถาบันเซรัมแห่งอินเดีย จำนวน 500,000 โดสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคาดหมายว่าจะไดรับวัคซีนเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านโดสในช่วงเดือนพฤษภาคม

“จนถึงตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขแคนาดาหรือสำนักงานสาธารณสุขแห่งแคนาดา ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์อาการไม่พึงประสงค์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ในแคนาดาเลย” ถ้อยแถลงกล่าว

รัฐบาลกลางแคนาดาสั่งซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าทั้งหมด 20 ล้านโดส และมีกำหนดรับมอบผ่านโครงการโคแว็กซ์ 1.9 ล้านโดส

แม้แคนาดาสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ในจำนวนโดสต่อประชากร มากกว่าประเทศไหนๆ ในโลก แต่เบื้องต้นการแจกจ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนหนึ่งสืบเนื่องจากปัญหาความวุ่นวายในการส่งมอบที่เกิดขึ้นกับวัคซีนของไฟเซอร์ อิงก์ และโมเดอร์นา อิงกื

อีกด้านหนึ่ง ออสเตรเลียเปิดเผยในวันศุกร์ (12 มี.ค.) ว่าจะยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ด้วยไม่พบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือด แม้ชาติในยุโรปบางประเทศตัดสินใจระงับใช้เป็นการชั่วคราว

เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หลังมีรายงานพบการก่อตัวของลิ่มเลือดในประชาชนบางรายที่ได้รับวัคซีน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่าในขณะที่คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาของประเทศ จะคอยสังเกตอาการเคสต่างๆ เหล่านี้ จะไม่มีการระงับการแจกจ่ายวัคซีนแต่อย่างใด “เราจะเดินหน้าวัคซีน เราจะเดินหน้าแจกจ่ายวัคซีน” ไมเคิล แม็กคอร์มัค รองนายกรัฐมนตรีบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในเมลเบิร์น

พอล เคลลีย์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ระบุไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าวัคซีนก่อให้เกิดลิ่มเลือด “เราจริงจังกับมันและทำการสืบสวน” เคลลีในระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านอีเมล อ้างถึงรายงานเกี่ยวกับการก่อตัวของลิ่มเลือด

ออสเตรเลียจัดซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 54 ล้านโดส ซึ่งทาง เบรนแดน เมอร์ฟี รัฐมนตรีสาธารณสุขให้คำจำกัดความเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า เป็นวัคซีนขุมกำลังเพื่อออสเตรเลีย เนื่องจากในนั้น 50 ล้านโดสจะเป็นการผลิตในประเทศโครงการแจกจ่ายของวัคซีนเพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้รัฐบาลอนุรักษนิยมตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเกี่ยวกับความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีน

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียเปิดเผยว่า เชื่อว่าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ภายในเดือนตุลาคมนี้ แม้ว่าออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาล่าช้าในขั้นต้นของการฉีดวัคซีนก็ตาม

จนถึงตอนนี้มีประชาชนแค่ราวๆ 150,000 คนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังพอควบคุมได้อยู่ โดยออสเตรเลียไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเหมือนประเทศอื่นๆ ไม่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนมานานเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น ยอดติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียเวลานี้อยู่ที่ราวๆ 29,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 909 ราย น้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วชาติอื่นๆ ค่อนข้างมาก ผลจากมาตรการปิดชายแดนระหว่างประเทศ ล็อกดาวน์ และกำหนดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้น

(ที่มา : รอยเตอร์)
 
ข้อมูลจาก https://mgronline.com/around/detail/9640000023950